วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

ออกโครงการ"ผ่อนชำระเบี้ยผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย 0%"


บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ( มหาชน)"จัดโครงการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย 0%" เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเพิ่มช่องทางเลือกให้แก่ลูกค้าผู้เอาประกันภัย ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยของบริษัททุกประเภท ในระยะเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% โดยมีเงื่อนไขการใช้บริการคือ ลูกค้าผู้เอาประกันภัยต้องมีเบี้ยประกันภัยรวมภาษีอากรไม่น้อยกว่า 3,000 บาท / กรมธรรม์ และยกเว้นการประกันภัยอิสรภาพ ประกันภัยอุบัติเดินทาง ประกันภัยขนส่งรายเที่ยว และประกันภัยที่มีระยะเวลาคุ้มครองน้อยกว่า 1 ปี เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2547 เป็นต้นไป ทีมประชาสัมพันธ์ 15 ตุลาคม 2547

สารพันความรู้เรื่องประกัน



การประกันภัยเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการบริหารการเงินของคุณ เพราะเป็นวิธีที่ทำให้คุณสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดต่อตัวหรือทรัพย์สินของคุณได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทที่คุณทำประกันภัยไว้จะทดแทนค่าเสียหายให้ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่คุณและครอบครัว การประกันภัยจึงมีประโยชน์อย่างมากและเป็นส่วนที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อประกันภัย คุณควรทำความเข้าใจกับหลักการประกันภัยก่อน เพื่อจะได้สามารถเลือกซื้อประกันภัยแบบที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
การประกันภัย คือ การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในจำนวนที่เล็กน้อย (เมื่อเทียบกับความเสียหายแล้ว) เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเสียเงินเยอะในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจริง โดยบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายแทน
การประกันภัยมิได้เป็นการทำให้ความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุหายไป แต่การประกันภัยจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้านการเงินตลอดจนการดำเนินการต่างๆ อันเนื่องมาจากความเสียหายนั้น แต่อย่างไรก็ตามวิธีการป้องกันความเสียหายที่แท้จริงและดีที่สุดคือการมีความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตของคุณเอง ส่วนการประกันภัยนั้นคุณควรมีไว้เพื่อเป็นแหล่งสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

เกร็ดความรู้

เกร็ดความรู้
1. เนื่องจากผมใช้เวลาวันละนิดพิมพ์และรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เกือบอาทิตย์บางวันก็ง่วง อาจะมีผิดตกบกพร่องมั่งก็ขออภัยล่วงหน้าครับ
2. ข้อมูลเหล่านี้คัดย่อมาจากบทความที่ผมลงไว้แล้วทั้งหมดเพียงแต่นำมารวบรวมใหม่ แหล่งที่มาระบุไว้ในตอนท้ายครับแล้วและเรื่องอาจจะมี ซ้ำกันบ้างรายละเอียดเข้าไปดูใน blog ได้ครับ
3.จะไม่มีรูปปลากอบในกระทู้นี้ เนื่องจากเนื้อหาที่มีมากสงสารเนตเต่าบางคน อิๆ..
4.สำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองสุดยอดเรื่องนี้ อยู่แล้ว ข้ามไปได้เลยครับ เพราะมันยาวโคตร...
5.บางเรื่องอาจจะไม่ตรงกับหลายๆคน ช่วย ชี้แนะด้วยครับและไม่หวงถ้าจะนำไปเผยแพร่ เพียงแต่ช่วยบอกเวปที่มามั่งด้วยก็ดีนะครับ
6..เผื่อใครที่มีเทคนิคดีๆ...ช่วยกรุณาเติมเต็มด้วยนะครับ เผื่อเป็นประโยชน์แก่ผมบ้างนะ..

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551


ข้อมูลทั่วไป ระบบเกียร์ : ออโต้ ปีที่เริ่มจำหน่าย : 2004 ราคา : 0 ข้อมูลเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ : แบบ i-DSI VTEC SOHC 4 สูบ 8 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ (cc) : 1339 แรงม้าสูงสุด : 63 พวงมาลัย พวงมาลัย : แบบ แรค แอนด์ พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (m) : - พวงมาลัยพาวเวอร์ : มี ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อน 4 ล้อ : ไม่มี
มิติ จำนวนประตู : 4 ความกว้าง (mm) : 1715 ความยาว (mm) : 4455 ความสูง (mm) : 1430 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) : 50 น้ำหนัก (kg) : 1210 อุปกรณ์มาตรฐาน แอร์ กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล๊อค กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า วิทยุ เทป CD/DVD พวกมาลัยพาวเวอร์

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

สาระน่ารู้เกี่ยวกับรถยนต์


ข่าวในประเทศ - ‘มาสด้า’ เชื่ออนาคตเทรนด์รถเปลี่ยน ผู้บริโภคเมินปิกอัพ หันมานิยมรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ทำให้สัดส่วนยอดขายเก๋ง-ปิกอัพ กลับมาเท่ากันที่ 50/50 ยิ้มร่ามาสด้า 3 ขายกระจาย ทั้งยังเน้นแผนการตลาดเชิงรุก เพื่อปูทางให้น้องใหม่ มาสด้า 2 ที่เตรียมเปิดตัวปีหน้า ขณะที่ บีที-50ไม่ฟื้นยอดขายฮวบ ล่าสุดปรับเป้าขายรวมทุกรุ่นปีนี้เหลือแค่ 12,000 คัน จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่มีราคาแพงกว่าเบนซิน ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อรถเก๋งขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น ขณะที่ความต้องการปิกอัพในตลาดลดลง ดังจะเห็นได้จากยอดขาย 7 เดือนแรกของปี ตกลงไปกว่า 4% สวนทางกับตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโตถึง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว “อย่างที่ทราบกันว่าตลาดเก๋งนั้นได้รับอานิสงค์จากภาษี อี20 และราคาน้ำมันพุ่งสูงทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจรถเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ขณะที่โปรดักส์ใหม่ๆต่างมุ่งไปยังรถจากโครงการอีโคคาร์รวมถึงรถซับคอมแพกต์ มาสด้า-ฟอร์ดเตรียมทำตลาดในปีหน้า ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลาย ดังนั้นปิกอัพแม้จะเป็นตลาดใหญ่ แต่เชื่อว่าในอนาคตรถยนต์นั่งจะได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้สัดส่วนยอดขายตลาดรถยนต์ไทยเปลี่ยนจากปิกอัพ 60% เก๋ง 40% มาเป็น 50-50 เท่าๆกัน” นอกจากนี้บริษัทยังประมาณการณ์ว่ายอดขายรถยนต์รวมทุกยี่ห้อในปี 2551 ว่าจะปิดถึง 6.5 แสนคัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปิกอัพ 3.35 แสนคัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่รถยนต์นั่งจะทำได้ ประมาณ 1.9 แสนคัน สูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยแบ่งเป็นเก๋งซับคอมแพกต์โต 25% เก๋งคอมแพกต์ 31% นายเรย์ กล่าวว่า เทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนั้น ถือเป็นเรื่องดีของมาสด้า เพราะในช่วง 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.- ก.ค.2551)เก๋งมาสด้า 3 มียอดขายเติบโตถึง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าถึงสิ้นปีจะทำได้ถึง 4,200 คัน สูงกว่าที่คาดการไว้ต้นปี 3,500 คัน ทั้งนี้ในไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีหน้า บริษัทยังเตรียมเปิดตัวเก๋ง มาสด้า 2 เพื่อให้คลอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค และเชื่อว่าจะได้การตอบรับอย่างดี “เราพยายามพัฒนาทั้ง ช่องทางการขาย บริการหลังการขาย ปรับปรุงเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และเน้นการตลาดเชิงรุก พร้อมสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็ง สื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ถึงคอนเซ็ปต์ ซูม-ซูม เพื่อปูทางไปสู่โปรดักส์ใหม่ๆ โดยเฉพาะเก๋งซับคอมแพกต์ มาสด้า 2 ที่จะเปิดตัวในอนาคต”

กรมการขนส่งทางบกร่วมกับบริษัทฮอนด้าคาร์ส (ประเทศไทย) อบรมเสริมความรู้รถยนต์ในวันหยุดราชการ


นายวัชรพงศ์ ไทเยนทร์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้จัดโครงการอบรมเสริมความรู้ด้านการใช้รถใช้ถนนแก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ สำหรับ ผู้ขับรถยนต์เป็นแล้วแต่ยังไม่มีใบอนุญาตขับรถ รุ่นที่ 94 ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม ณ ห้องประชุมกรมการขนส่งทางบก โดยจัดวิทยากรมาเสริมความรู้ในเรื่องกฎหมายจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วย รถยนต์ เครื่องหมายจราจร การขับรถอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฮอนด้าคาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้อบรมทุกท่าน อีกทั้งบริการอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดการอบรม สำหรับผู้สนใจที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี อายุ ตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป สมัครเข้ารับการอบรมและทดสอบได้ด้วยตนเองพร้อมหลักฐาน ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ใบรับรองแพทย์ รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 3 รูป และค่าธรรมเนียม 105 บาท ที่ฝ่ายใบอนุญาตขับรถยนต์ สำนักทะเบียนและภาษีรถ กรมการขนส่งทางบก (อาคาร 4 ชั้น 2) รับจำนวนจำกัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 2723614-6, 2725322, 2725416 ในวันเวลาราชการ--จบ--