ข่าวในประเทศ - “มินิ” ติดลมไปกับเทรนด์รถเล็กแรง ครึ่งปีแรกยอดขายในไทยพุ่ง 100% เหตุมีรถ
แนะนำสู่ตลาดต่อเนื่อง ไตรมาสสุดท้ายเตรียมเปิดตัว “จอห์น คูเปอร์ เวิร์ก” เสริมอีกรุ่น พร้อมดึงลูกค้าร่วมกันรับ
ผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดกิจกรรมตลาดผสมกลยุทธ์ CSR นายปรีชา นินนาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์รถเล็กกำลังมา
แรงทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้ด้วย เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราสิ้น
เปลืองพลังงานเชื้อเพลิง เรื่องของวัตถุดิบการผลิต และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้ยอดขายทั่วโลกของมินิ
ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตถึง 18% “ในส่วนของประเทศไทยนับว่าประสบความสำเร็จมาก มียอดขายช่วงครึ่งปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
มีอัตราการเติบโต 100% หรือตลอด 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.) มียอดขายไปแล้วมากกว่า 200 คัน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบ
รับอย่างดีในทุกรุ่น และบางรุ่นอย่าง มินิ คลับแมน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเดิมมีโควตาเพียง 50 คัน ปรากฎว่าไม่เพียงพอ
ความต้องการของลูกค้า จึงต้องขอโควตาเพิ่มจากบริษัทแม่เป็นพิเศษ โดยคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมทุกรุ่น
400 คัน จากปีที่แล้วทำได้ 350 คัน” สาเหตุสำคัญที่มินิได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า นอกจากจะเป็นเทรนด์ของตลาดแล้ว ยังมาจาก
การทยอยแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว อย่างรถ 3 ประตู รหัส R56 ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มินิ คู
เปอร์, คูเปอร์ เอส และล่าสุดมินิ คลับแมน ทำให้ตัวเลขยอดขายช่วงครึ่งปีแรกกระโดดจากปีที่แล้วเป็นเท่าตัว และ
ภายในสิ้นปีนี้ก็จะมีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์ก ที่มีกำลัง 211 แรงม้า ขณะนี้เปิดตัวจองแล้ว
ในราคา 3.45 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นายปรีชากล่าวว่า สิ่งที่สร้างความสำเร็จให้กับมินินอกจากรถใหม่แล้ว ยังมาจากการเปิดโชว์รูมและ
ศูนย์บริการมิลเลนเนียม มินิ ออโต ที่ซอยเอกมัยเมื่อปีที่แล้ว ตลอดจนถึงระบบการจัดส่งรถที่รวดเร็วขึ้น ทำให้ไม่มี
ปัญหาเรื่องการส่งมอบล่าช้า
แนะนำสู่ตลาดต่อเนื่อง ไตรมาสสุดท้ายเตรียมเปิดตัว “จอห์น คูเปอร์ เวิร์ก” เสริมอีกรุ่น พร้อมดึงลูกค้าร่วมกันรับ
ผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดกิจกรรมตลาดผสมกลยุทธ์ CSR นายปรีชา นินนาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์รถเล็กกำลังมา
แรงทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้ด้วย เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราสิ้น
เปลืองพลังงานเชื้อเพลิง เรื่องของวัตถุดิบการผลิต และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้ยอดขายทั่วโลกของมินิ
ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตถึง 18% “ในส่วนของประเทศไทยนับว่าประสบความสำเร็จมาก มียอดขายช่วงครึ่งปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
มีอัตราการเติบโต 100% หรือตลอด 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.) มียอดขายไปแล้วมากกว่า 200 คัน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบ
รับอย่างดีในทุกรุ่น และบางรุ่นอย่าง มินิ คลับแมน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเดิมมีโควตาเพียง 50 คัน ปรากฎว่าไม่เพียงพอ
ความต้องการของลูกค้า จึงต้องขอโควตาเพิ่มจากบริษัทแม่เป็นพิเศษ โดยคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมทุกรุ่น
400 คัน จากปีที่แล้วทำได้ 350 คัน” สาเหตุสำคัญที่มินิได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า นอกจากจะเป็นเทรนด์ของตลาดแล้ว ยังมาจาก
การทยอยแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว อย่างรถ 3 ประตู รหัส R56 ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มินิ คู
เปอร์, คูเปอร์ เอส และล่าสุดมินิ คลับแมน ทำให้ตัวเลขยอดขายช่วงครึ่งปีแรกกระโดดจากปีที่แล้วเป็นเท่าตัว และ
ภายในสิ้นปีนี้ก็จะมีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์ก ที่มีกำลัง 211 แรงม้า ขณะนี้เปิดตัวจองแล้ว
ในราคา 3.45 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นายปรีชากล่าวว่า สิ่งที่สร้างความสำเร็จให้กับมินินอกจากรถใหม่แล้ว ยังมาจากการเปิดโชว์รูมและ
ศูนย์บริการมิลเลนเนียม มินิ ออโต ที่ซอยเอกมัยเมื่อปีที่แล้ว ตลอดจนถึงระบบการจัดส่งรถที่รวดเร็วขึ้น ทำให้ไม่มี
ปัญหาเรื่องการส่งมอบล่าช้า